วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

โลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดแต่เป็นโลกความเป็นจริง

"มันนะ ไม่เคยบอกรักชั้นเวลาปกติเลยล่ะแก..."
"ละไอ้เวลาไม่ปกติเนี่ย เวลาไหนล่ะ พระจันทร์เต็มดวงรึไง"
...
"เวลาก่อนละหลังไอ่นั่นอ่า.........???"
"ก่อนและหลังอาหารหรือ"
"ไม่ใช่แก..ก่อนและหลังสังวาสต่างหาก..."

"การกระทำเยี่ยงนั้น เปรียบได้กับการหลอกล่อสุนัขให้ทำท่าขอมือก่อนอาหาร
เมื่ออยากได้อาหารสุนัขก็ต้องยอมทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่งเรื่องผิดธรรมชาติ
อย่างการยืนสองขาหรือตอแหลว่ารักแกก็ตามที..."

...

"...ก็ดีอ่ะ แต่พูดปีละพันคำ แถมยังบอกรักเฉพาะก่อนจิ้มและหลังจิ้มกันนี่ก็ไม่ไหวนะแก"

หนังสือดีๆเล่มนี้อยากให้ได้อ่านกัน..เขียนโดย พี่ดี้ ธิยา นิธิพันธวงศ์

อันนี้เป็นอีกตอนหนึ่งที่ชอบมากๆ...อ่านแล้วร้องไห้

ตัดฉากมาที่เรื่องติดยาของผู้ชายที่พี่เค้าไปรู้จัก ผู้ชายคนนั้นชื่อแจ๊ค พี่ดี้เค้าก็หวังให้เพื่อน
เค้าเลิกยาได้ เพราะเหตุผลของคนติดยาก็มีอยู่ บางคนจะทำตัวเลิกคบกะคนพวกนั้นไป แต่
ที่ทุกคนทำย่อมมีเหตุผลแน่นอน ยกตัวอย่าง อย่างคนที่ติดหนังสือมากๆ แล้วอยากแนะนำให้
คนอื่นอ่านหนังสือที่ตัวเองอ่าน อย่างชั้นติดนิยายเกาหลี ละไปบังคับ เร้าหรือให้น้องชั้นอ่าน
หนังสือตอนช่วงจะสอบ ก็เหมือนกัน แจ๊คชวนเล่นยา แต่เค้าก็มีเหตุผลของเค้า...

แจ๊ค เริ่มใช้ยาครั้งแรกตอนที่แม่เค้าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก โดยหวังมันเป็นยานพาหนะ
พาเค้าหนีจากความเจ็บปวดไปสู่อีกโลก...อีกไม่นานพ่อเค้าก็พาแฟนใหม่เข้ามาอยู่บ้าน แจ๊คเลยทำ
ใจไม่ได้แยกตัวออกมาอยู่คนเดียว

"เขาต้องแอบคบกันมาตั้งแต่ตอนแม่ป่วยแน่ๆ ทั้งๆที่แม่ใกล้จะตายอยู่แล้ว พ่อกลับทรยศแม่ได้ลงคอ"

"พ่อตีหน้าเศร้าอยู่เคียงข้างแม่จนวินาทีสุดท้าย"

"เรายังเผลอคิดว่าพ่อเสียใจ จนกระทั่งพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งๆที่แม่เพิ่งตายแท้ๆ"

แจ๊คคิดวกวนอยู่แต่เรื่องแบบนี้ ละยืนยันที่จะเวียนว่ายอยู่ในเขาวงกตแห่งความทุกข์ที่ตัวเองเป็นผู้
สร้างขึ้น...

ชีวิตนักเขียน...
อันที่จริงชั้นไม่มีพ่อมาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่เห็นว่าจะมีอาการอยากยาแต่อย่างใด ชั้นไม่เคยเห็นหน้า
พ่อแท้ๆด้วยซ้ำ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าท่านยังเป็นหรือตาย แม่ชั้นเลิกกับพ่อตั้งแต่ตอนชั้นยังหลับคุดคู้อยู่
ในท้อง เพราะแม่ดันไปค้นพบอัลบั้มลับเฉพาะของพ่อกับหญิงสาวนิรนามในเครื่องแต่งกายนุ่งลมห่มฟ้า
ท่วงท่าพสดาร แต่ที่ทำให้แม่โกรธจนถึงขั้นหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้านก็คือ ฉากที่ใช้ในการถ่ายทำ
ครั้งนั้นคือเตียงแต่งงานของพ่อกับแม่นั่นเอง.......

หลังจากเลิกกับพ่อ และโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่เชียงใหม่กับป้า แม่ไม่เคยแต่งงานใหม่ ชั้นเลยเป็นลูกสาว
หัวแก้วหัวแหวนคนเดียว ........
ชั้นจำได้ครั้งเดียวที่ชั้นรู้สึกว่าตัวเองขาดพ่อคือตอนอยู่ป.1 เมื่อคุณครูประจำชั้นส่งจดหมายเวียนมาเรียนเชิญ
คุณพ่อของนักเรียนไปร่วมพิธีวันพ่อที่ทางโรงเรียนจัดขั้น นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ชั้นอยากมีพ่อ...

คืนก่อนวันงาน แอบร้องไห้ กลัวเป็นตัวประหลาด เพราะไม่มีพ่อไปร่วมงานอยู่คนเดียวในชั้น
เริ่มร้องไห้ดังจนแม่ได้ยิน แม่ถาม เป็นอะไรลูก ... หนูอยากมีพ่อ ... แม่ได้แต่พูดทั้งน้ำตาว่า แม่ขอโทษ ...

วันรุ่งขึ้น ไปโรงเรียนตามปกติ ครูประกาศชื่อคนที่พ่อไม่มาร่วม ยังไงก็ไม่ได้เป็นหัวเดียวกระเทียมลีบที่ไม่มีพ่อ
ยังมีเพื่อนในชั้นอีก ครูให้ไปอยู่ในห้องสมุด แล้วเมื่อถึงเวลากินเลี้ยงจะไปเรียก แต่ไม่มีชื่อชั้นอยู่หนึ่งในนั้น

งงและสงสัย...
ขณะที่เดินเข้าห้องประชุม และกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ฉับพลัยสายตาก็สะดุดเข้ากับใบหน้าที่ชั้นคุ้นเคย
ใบหน้าลอยเด่นเป็นสง่าออกมาจากบรรดาพ่อๆ ก็จะไม่ให้เด่นได้ยังไงในเมื่อเจ้าของใบหน้าที่มีดวงตาอิดโรย
แต่ฉายแววอบอุ่นมุ่งมั่น เจ้าของใบหน้าที่มีผมมวยขมวดแน่นอยู่ที่ท้ายทอยเผยให้เห็นเครื่องหน้าได้รูปจัดวาง
อย่างเหมาะเจาะอยู่บนใบหน้าที่ยังเหลือเค้าความสวยแม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน เจ้าของใบหน้าผู้เป็น
ผู้หญิงเพียงคนเดียวท่ามกลางบรรดาคุณพ่อที่มาร่วมงานเจ้าของใบหน้านั้นคือ แม่ชั้นเอง...

ชั้นบรรจงติดดอกพุทธรักษาบนอกแม่ด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนก้มลงกราบ.....
แม่กระซิบข้างหู...
"เป็นความรับผิดชอบของแม่ ที่ทำให้ลูกไม่มีพ่อ แต่แม่อยากให้ลูกรู้ว่า แม่รักลูกมาก ลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุด
ในชีวิตแม่ และแม่จะทดแทนให้ลูกโดยการเป้นทั้งแม่และพ่อให้ดีที่สุด แม่สัญญาว่าจะทำให้ลูกมีความสุข
ที่สุด แม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตแม่ แม่ก็จะทำ..."

จากวันนั้นถึงวันนี้ แม่ไม่เคยผิดสัญญาที่ให้ไว้กับชั้นแม้เพียงสักครั้ง

...
ตัดมาที่แจ๊ค
แจ๊คบอกไม่ได้ติดยา...
แต่ใช้ยาแล้วรู้สึกว่าโลกมันดูสวยงามดีก็เท่านั้น เขาไม่ชอบโลกแห่งความจริงที่เราๆท่านๆอยู่กันเพราะมันสกปรก
โสมมเหลือคณา...

เดี๋ยวมาอัพใหม่ ทำงานก่อนจ้า...

Continue...

ไอ้ยาน่ะ จะเลิกเมื่อไรก็เลิกได้ แต่ยังไม่อยากเลิก...
ชั้นเลยถามว่าไม่อยากมองโลกแบบธรรมดาๆดูบ้างเหรอ ถึงมันจะสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่ยังไงซะมันก็เป็นของจริง
ประโยชน์อะไรที่จะให้แมงสาบเดินไต่ไปมาบนหน้าเล่น เพราะเห็นมันเป็นเต่าทองสีสวยตัวอ้วนป้อมแถมยังพูดได้อีกตะหาก
เพราะไม่ว่าสายตาเราจะเห็นเป็นยังไง เราก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ว่ามันคือแมงสาบ ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์
แต่มันก็คือเสน่ห์ของชีวิตไม่ใช่หรือ...


กินก่อนเดี๋ยวมาต่อใหม่ฮะ...

ย่อๆละกันนะ...เวลาผ่านไปผ่านมาผ่านมาผ่านไป...

ก็ไม่ได้ติดต่อแจ๊คเลย เพราะในเมื่อไปทำให้เค้าเปลี่ยนทัศนคติไม่ได้ก็เลิกการติดต่อ...

จนเป็นปี...
พี่ที่รู้จักโทรมา บอกแจ๊คอยู่โรงพยาบาล กระโดดตึก เจ็บหนัก อยู่ไอซียู...
แจ๊คสิ้นใจหลังจากอยู่ห้องไอซียู 3 วัน เพราะอาการติดเชื้อในปอด ชั้นอยุ่เคียงข้างแจ๊คจนวินาทีสุดท้าย
ชั้นอดโทษตัวเองไม่ได้ที่ไม่มีความอดทน และเข้าใจเขามากกว่านี้...
ถ้าชั้นเห็นแก่ตัวน้อยกว่านี้ช่วยเหลือเขาอย่างจริงจัง เขาก็คงไม่เป็นแบบนี้ ...

ชั้นได้แต่ภาวนาในใจว่าแจ๊คจะได้ไปอยู่กับแม่ของเขาในโลกที่สวยงาม และไร้ความเจ็บปวด โลกฝาแฝด
แบบที่เค้าพูดถึงมาโดยตลอด...

...............................................

หนังสือของพี่ดี้ดีมากมาย ทำให้ตัวชั้นเองค้นพบอะไรตั้งหลายอย่าง ได้ฝึกคิดหลายแง่หลายมุม
อยากให้อ่านกันนะ หนังสือพี่ดี้ ดีมากมาย ถึงแม้จะไม่ได้รู้จักเค้าเป็นการส่วนตัว แต่หนังสือของ
พี่เค้า ทำให้ชั้นเรียนรู้ตัวพี่เค้าได้มาก...

และมองชีวิตในมุมมองใหม่ๆมากขึ้น...
ชอบอันนึงที่สู้ด...
"จะเลิกตามหารักแท้ให้ชีวิตมันยุ่งยาก อกหักซ้ำซากเป็นแม่นาค 18 เวอร์ชั่น" ได้ใจง่า...
คิดได้ไงเจ๊...ขอยืมไปพูดนิดส์นึงนะจ๊ะ...

ละอีกเรื่องราวมากมาย...จะมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังนะคร้าบ...

อย่างน้อยความเหงามันก็ไม่เคยนอกใจเรา ความเหงาไม่เคยปิดมือถือหนี ความเหงาไม่เคยไปบอก
ผู้หญิงอื่นว่าเลิกกับชั้นไปแล้วทั้งๆที่เมื่อวานยังถกกันเรื่องโลเกชั่นเรือนหออย่างคร่ำเคร่ง ความเหงา
ไม่เคยกระทบกระแทกแดกดันชั้นเหมือนผู้ชายโฉดชั่วบางคน ความเหงาทำร้ายชั้นมากที่สุดก็แค่ เหงา
เพียงแต่ชั้นยกโทรศัพท์ขั้นมาโทรหาเพื่อน ขับรถออกไปร้าน หรือหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ความเหงาก็จะ
รับรู้และเข้าใจ ถอยไปซุกมุมจิตใจเงียบๆ แต่โดยดี เพื่อรอเวลาที่จะออกมาชวนชั้นเล่นด้วยอีก แต่ถ้าชั้น
ไม่ปล่อยตัวเองให้ว่าง จนมีเวลามาหยอกล้อเล่นหัวกับมัน มันก็ทำอะไรชั้นไม่ได้ ได้แต่มูนวอล์กกลับ
ไปนั่งเจ่าจุกตรงมุมเงียบๆอย่างเดิม

อย่างนี้ความเหงามันน่ากลัวตรงไหน ชั้นจะกลัวเหงาไปทำไมกัน ถ้าชั้นจะกลัวความเหงาที่เกิดจากจิตใจ
ตัวเอง ชั้นหันไปกลัวความเจ็บช้ำน้ำใจอันเกิดจากการกระทำอันไร้สติของคนอื่นจะดีกว่าไหม เวลาเยียวยา
หัวใจน่ะมันทรมานจะตาย สู้ตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้มันเกิดน่าจะดีกว่า........

พอกันทีต่อไปนี้ชั้นจะเลิกลองผิดลองถูกไขว่คว้าหาความรักแล้ว ถ้าคนที่ใช่สำหรับชั้นมีจริง วันหนึ่งเขาก็คง
โผล่มาเองแหละ จะไปค้นไปหาทำไมให้มันเปลืองตัว เปลืองใจ เอาเป็นว่าถ้าความรักมันไม่มาวิ่งชนชั้นเอง
จังๆ ชั้นก็จะไม่ดิ้นรนตะเกียกตะกายไปหามันก็แล้วกัน อยากมากก็แค่อยู่เป็นโสดของชั้นไปแบบนี้แหละ
ใครจะทำไม......................

มันดี เลยเอามาบอกกล่าวให้หาหนังสืออ่านกันนะ...


หนังสือหาอ่านกันได้นะค้าบ ชื่อเรื่อง โสดซะดีมั้ย ถ้าเจอผู้ชายพรรค์นี้ ... รักบัดซบค่ะ ...

ไม่มีความคิดเห็น: